วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

วันเเห่งความสำเร็จ

★วันนี้ที่รอคอย......
วันแห่งความสำเร็จ....คำๆนี้หลายคนคงอยากจะเจอสักครั้งในชีวิตเเม้มันจะไม่ได้มาง่ายๆเเต่นั้นเกิดจากความตั้งใจ ความพยายามเเน่นอนว่าบางครั้งมันอาจจะเต็มไปด้วยความท้อเเท้เเต่ถ้าคุณผ่านมาได้รับรองผลตอบเเทนนั้นคุ้มยิ่งกว่าคุ้มขอให้จงจำให้ขึ้นใจว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น"
......หนึ่งวันเเห่งความสำเร็จ......
มาจากหลายวันเเห่งความพยายาม
หลายวันเเห่งความพยายาม
มาจากหลายเดือนเเห่งความอดทน
หลายเดือนเเห่งความอดทน
มากจากหลายปีเเห่งความตั้งใจ
.......................


นิทาน
เคล็ดลับของความสำเร็จ
..................

   เหล่าลูกศิษย์ถามพระอาจารย์ว่า “ทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ” อาจารย์จึงพูดว่า “วันนี้พวกเราจะเรียนเรื่องธรรมดาๆและง่ายที่สุด” ให้ทุกคนแกว่งแขนไปข้างหน้าให้สุด แล้วแกว่งไปข้างหลังให้สุดเช่นกัน พระอาจารย์สาธิตให้ดู พร้อมกับกำชับว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้แกว่งแขนวันละ 300 ครั้ง ทุกคนทำได้หรือเปล่า ?” เหล่าลูกศิษย์รู้สึกสงสัยจึงถามว่า “ทำไมต้องทำเรื่องอย่างนี้” พระอาจารย์ตอบว่า “หลังจากทำเรื่องนี้แล้ว ผ่านไปหนึ่งปี พวกเจ้าจะรู้ว่า ทำอย่างไรจึงจะประสบผลสำเร็จ” เหล่าลูกศิษย์คิดในใจว่า “เรื่องง่ายๆอย่างนี้ ทำไมถึงจะทำไม่ได้” หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน พระอาจารย์ถามเหล่าลูกศิษย์ว่า เรื่องที่อาจารย์สั่งให้ทำ มีใครยังทำอยู่หรือเปล่า? ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ยังตอบอย่างมั่นคงว่า ยังทำอยู่ พระอาจารย์รู้สึกพอใจ พยักหน้าบอกว่า “ดีๆ” และเมื่อผ่านไปอีกหนึ่งเดือน พระอาจารย์ก็ถามอีกว่า “ตอนนี้ใครยังทำอยู่อีก” ที่สุดก็เหลือเพียงครึ่งเดียวที่บอกว่าทำแล้ว หนึ่งปีผ่านไป พระอาจารย์ถามทุกคนว่า "พวกเจ้าจงบอกซิว่า การออกกำลังกายด้วยการแกว่งแขนแบบง่ายๆ ยังมีใครยังคงทำอยู่ ?” ตอนนี้มีเพียงคนเดียว ที่ตอบว่ายังคงทำอยู่ พระอาจารย์จึงพูดว่า “อาจารย์เคยบอกกับพวกเจ้าว่า เมื่อทำเรื่องนี้เสร็จ พวกเจ้าจะรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะประสบผลสำเร็จ ตอนนี้สิ่งที่อาจารย์อยากจะบอกพวกเจ้าคือ เรื่องที่ทำง่ายที่สุดในโลก บ่อยครั้งก็เป็นเรื่องที่ทำยากที่สุด เรื่องที่ทำยากที่สุด ที่บอกว่าง่าย เพราะขอเพียงยอมไปทำ ใครๆก็สามารถทำได้ และที่บอกว่าเรื่องง่ายทำยาก ก็เพราะว่า คนที่ทำได้อย่างแท้จริง ต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่น้อยคนจะทำได้" หลังจากนั้น พระรูปที่ทำต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ก็ได้เป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อไป ในบรรดาศิษย์ทั้งหลายมีพระรูปนี้ที่ประสบความสำเร็จอยู่รูปเดียว 


เเต่คุณจะไม่มีวันประสบความสำเร็จเลยหากบนเส้นทางชีวิตของคุณนั้นขาดคำๆนี้ไปนั้นคือ "เพื่อน"
คำว่าเพื่อน นิยามของคําว่าเพื่อน
เพื่อน.....คือคนที่เคยร่วมทุกข์สุขของเรา
เพื่อน.....คือคนที่เคยโดนครูทำโทษด้วยกัน
เพื่อน.....คือคนที่มักจะ ชอบท้า เราในเรื่องต่างๆ
เพื่อน.....คือคนที่ชอบเล่นกับเราโดยไม่ห่าง
เพื่อน.....คือคนที่พูดกับเราเมื่อยามเหงา...
เพื่อน.....คือคนที่ชอบกลั่นแกล้งเรา เพื่อความสะใจ
เพื่อน.....คือคนที่ปลอบเราเมื่อเราเสียใจ
เพื่อน.....คือคนที่แนะนำสิ่งต่างๆให้เรารู้เห็น
เพื่อน.....คือคนที่เป็นทุกสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข
เพื่อน.....คือคนที่บางทีอาจทำให้เรามีทุกข์
คำว่าเพื่อน...อาจเป็นความสุขของเราตลอดไป


เพื่อนคอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง เพื่อนคอยฟัง ยามเพื่อนขอ

เพื่อนคอยรอ ยามเพื่อนสาย เพื่อนคอยพาย ยามเพื่อนพัก
เพื่อนคอยทัก ยามเพื่อนทุกข์ เพื่อนคอยปลุก ยามเพื่อนท้อ
เพื่อนคอยง้อ ยามเพื่อนงอน เพื่อนคอยสอน ยามเพื่อนผิด
เพื่อนคอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ เพื่อนคอยเจอ ยามเพื่อนหา
เพื่อนคอยลา ยามเพื่อนกลับ เพื่อนคอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน
เพื่อนคอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว เพื่อนคอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น
เพื่อนคอยเย็น ยามเพื่อนร้อน เพื่อนคอยหอน ยามเพื่อนเห่า
เพื่อนคอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ เพื่อนคอยอุบ ยามเพื่อนปิด
เพื่อนคอยคิด ยามเพื่อนถาม เพื่อนคอยปราม ยามเพื่อนหลง
เพื่อนคอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง เพื่อนคอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด
เพื่อนคอยอด ยามเพื่อนทาน เพื่อนคอยคาน ยามเพื่อนล้ม
เพื่อนคอยชม ยามเพื่อนชนะ เพื่อนคอยสละ ยามเพื่อนชอบ
...........................................


...........................






วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

มุ่งตรงสู่ชัยชนะ

หัวใจที่จะนำไปสู่คามสำเร็จ
    คุณเคยถามตัวเองไหมว่า อะไรคือเป้าหมายของชีวิต? คุณมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?เพื่อใคร? และ
อย่างไร?
การมีเป้าหมายในชีวิต คือ การที่เรามีภาพของความสำเร็จไว้เบื้องหน้า ซึ่งดูคล้ายกับการต่อจิ๊กซอ 
ที่เราเห็นภาพที่เสร็จสมบูรณ์แล้วที่นี้ก็ขึ้นกับวิธีการของแต่ละคนว่าจะทำอย่างไรให้จิ๊กซอแต่ละตัวมาต่อกันให้เกิดเป็นภาพนั้นขึ้นมา แต่ถ้าเราไม่มีภาพหรือไม่มีเป้าหมาย อะไรจะเกิดขึ้น???
บางคนอาจจะคิดว่าฉันก็มีชีวิตของฉันไปเรื่อยๆ ไม่ได้รบกวนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ฉันก็มี
ความสุขดี แล้วคุณค่าของคุณจะอยู่ที่ไหน???
การมีเป้าหมายในชีวิต คือคำตอบว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เพื่อใคร และอยู่อย่างไร

    ชีวิตเปรียบเหมือนกับการเดินทาง และนักเดินทางที่ชาญฉลาด ย่อมมีเป้าหมายในการเดินทาง
เสมอ เขาจะไม่สูญเสียเวลาข้างทาง เพราะจะทำให้เขาไปถึงจุดหมายช้าลง การเดินทางของชีวิต ไม่ได้ราบราบและสวยงาม เหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ในระหว่างทางสิ่งที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ ปัญหาและอุปสรรคเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญให้มาเยี่ยมเยือนเรา มาเพื่อทดสอบเรา มาทำให้เราเหนื่อยล้า ท้อแท้ สิ้นหวัง หมดแรง หมดกำลังใจที่จะเดินต่อไป และทำให้จุดหมายปลายทางนั้นยาวไกลออกไป อะไรคือสิ่งจำเป็นสำหรับนักเดินทางที่จะเอาชนะแขกที่ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้
คำตอบคือ ความมุ่งมุ่นและความสม่ำเสมอ แม้ว่าเราจะเจอกับอุปสรรคขวากหนามและปัญหา
มากมาย เป็นมรสุมของชีวิตก็ว่าได้ เราก็สามารถที่จะไปถึงเป้าหมายได้ในที่สุด ซึ่งมันอาจจะล่าช้า
ไปบ้าง ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว
หลายคนอาจจะมีประสบการณ์ในการเดินขึ้นภูเขา เวลาที่เราเดินขึ้นภูเขาเราต้องออกแรงมากเป็น
พิเศษเปรียบเทียบได้กับช่วงมรสุมชีวิต และเมื่อเราเดินลงเขาเราแทบจะไม่ได้ออกแรงเลย ทั้งๆ ที่
เราก็ต้องแบกภาระเหมือนเดิมอาจจะมากกว่าตอนเดินขึ้นเขาด้วยซ้ำ นั้นเป็นเพราะมรสุมได้ผ่านพ้น
ไปแล้วชีวิตของคนเราย่อมมีขึ้นและมีลงเช่นเดียวกับการเดินเขา แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้จากการเดินคือ
ระยะทางที่เพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าเราต้องเดินขึ้นเดินลงจนกว่าจะไปถึงเป้าหมาย ขอให้เรามีความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอไว้ในใจ จุดหมายนั้นก็จะใกล้เพียงปลายตาการพักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทาง เราไม่สามารถเดินโดยไม่พักไม่ได้ การพักผ่อนเหมือนกับการชาร์ตแบตเตอรี่ให้เต็ม เป็นการชาร์ตทั้งพลังกายและพลังใจ ในระหว่างทางที่เดินเราพบปะคนมากมาย บางคนก็เดินไปทางเดียวกับเรา บางคนก็เดินสวนทางกับเราถ้าการเดินทางของเราเต็มไปด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้ม แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายก็ตาม เราจะเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นเดินตามโดยไม่รู้ตัว บางคนอาจจะยึดเอาคติประจำใจของเราไปใช้ในการดำเนินชีวิต หรือให้เราเป็นแม่แบบ เพราะพวกเขาได้เห็นแล้วว่า ความสำเร็จจะมาอยู่เบื้องหน้าได้อย่างไร?ความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอ คือหัวใจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ


เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ http://blog.eduzones.com/mossaranyoo/125829

.....ข้อคิดเพื่อความสำเร็จ....
หากวันนี้คุณมีความฝัน จงทำด้วยหัวใจ เเล้วความสำเร็จจะรออยู่ไม่ไกล




วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

ก้าวย่างบนทางฝัน

ชีวิตเป็นของเราใช้ซ่ะ.......
    ข้อได้เปรียบของการมีเป้าหมายใหญ่คือต่อให้คุณไม่ถึงเส้นชัย...อย่างน้อยคุณก็ไปไกลกว่าคนอื่น
ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลยได้ก็ดี.. ไม่ได้ก็ยังดีอยู่เส้นทางแคบๆ ที่คุณเห็นถ้ามันลำบากคุณก็แค่ถอยตัวออกมาคุณไม่จำเป็นต้องเดินตามใครการที่คุณพยายามเอาชนะคนหมู่มาก...มันเหนื่อยมันเสียเวลามากเกินไปความฝันมันฟรีอยู่แล้วคุณเลือกได้คุณสร้างเส้นทางของคุณเลย


หากคิดว่าอุปสรรคก็คือเรื่องธรรมดา
.......................
.... ที่ทุกชีวิตต้องประสบพบเจอ ไม่ใช่เราคนเดียว
หากจะคิดว่า อุปสรรคก็คือบททดสอบ
.... ที่เราจะต้องทดสอบ หน้าที่ของเราก็คือทำเเบบทดสอบให้ดีที่สุด ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร
เราก็เเค่ยอมรับ
หากคิดว่าอุปสรรคก็คือบทเรียน
.... ที่เราจะต้องเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประโยชน์เเละประสบการ์ณจากมัน
หากเราคิดได้เช่นนี้
.... คำว่า "อุปสรรค" ก็จะเป็นเรื่องธรรมดาเป็นเรื่องๆหนึ่งในชีวิตที่เราไม่ต้องทุกข์ใจกับมัน
เพราะสักวันจะเป็นวันของเรา
..................



เหมือนชีวิตของบุคคลคนๆหนึ่งที่เมื่อพูดถึงก็มีเเต่คนรู้จักในฉายาว่า"อัจฉริยะเปลี่ยนโลก"
นั้นคือ......สตีฟ จ๊อบส์
ชีวิตของเขานั้นอาจจะเเตกต่างกับใครหลายๆคนเเต่อย่างน้อยเขาก็เดินทางตามความฝันจนประสบความสำเร็จถึงเเม้เขาจะมีอายุเพียง 56 ปี เเต่นั้นก็คงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
ประวัติส่วนตัวของสตีฟ จอบส์
สตีเวน พอล จอบส์ (Steve Jobs) เกิดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955 เกิดที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นบุตรบุญธรรมของนายพอล และนางคลารา จอบส์ส่วนบิดา มารดาที่แท้จริงของจอบส์ คือ บิดา อับดุลฟัตตะห์ จันดาลี มารดา โจแอน ซิมป์สัน สตีฟ จอบส์ เข้าพิธีสมรส กับ ลอเรนซ์ โพเวลล์ เมื่อวัน18 มีนาคม ค.ศ. 1991 และมีบุตรด้วยกันสามคน สตีฟ จอบส์ ยังมีลูกสาวหนึ่งคน ชื่อลิซา จอบส์ ที่เกิดจากสตรีผู้หนึ่งซึ่งเขาไม่ได้แต่งงานด้วย และ สตีฟ จอบส์ นับถือศาสนาพุทธ


ในปีค.ศ. 1972 สตีฟ จอบส์ (Steve jobs) จบการศึกษาจาก โฮมสตีดไฮสคูล ในเมืองคิวเปอร์ทีโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้สมัครเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยรีด (Reed College) ในเมืองพอร์ตแลนด์ มลรัฐโอเรกอน แต่ก็ต้องลาพักการเรียนหลังจากเข้าเรียนได้เพียงหนึ่งภาคการศึกษา หลายปีต่อมา ในปาฐกถาครั้งหนึ่งในพิธีสำเร็จการศึกษาของบัณฑิตมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ปีค.ศ. 2005 สตีฟ จอบส์ (Steve jobs)ได้กล่าวว่าเพราะเขาลาพักเรียนไป จึงมีเวลาเข้าชั้นเรียนคัดตัวหนังสือ

“ถ้าผมไม่ได้เรียนวิชานั้นที่วิทยาลัยรีด เครื่องแมคอินทอชคงจะไม่มีรูปแบบอักษรหลากหลาย และปราศจากฟอนต์ที่มีการแบ่งระยะห่างอย่างถูกสัดส่วนเช่นนี้“
ปี ค.ศ. 1976 เป็นผู้มีส่วนช่วยทำให้แนวความคิดเรื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นที่นิยมขึ้นมา ด้วยเครื่อง Apple II ต่อมา เขาเป็นผู้แรกที่มองเห็นศักยภาพทางการค้าของส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟิกส์และเม้าส์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นในศูนย์วิจัยซีร็อกซ์พาร์ค ของบริษัทซีร็อกซ์ และได้มีการผนวกเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าไว้ในเครื่องแมคอินทอช หลังพ่ายแพ้ในการแย่งชิงอำนาจกับคณะกรรมการบริหาร

ปี ค.ศ. 1984 สตีฟ จอบส์ (Steve jobs) ลาออกจากแอปเปิลและก่อตั้งเน็กซ์ บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในการศึกษาขั้นอุดมศึกษาและตลาดธุรกิจ การซื้อกิจการเน็กซ์ของแอปเปิ้ล

ปี ค.ศ. 1996 ทำให้ จอบส์กลับเข้าทำงานในบริษัทแอปเปิลที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นนั้น และเขารับหน้าที่ CEO ตั้งแต่ ค.ศ. 1997 ถึง 2011 สตีฟ จอบส์ ยังเป็นประธานกรรมการบริหาร และผู้บริหารระดับสูงของพิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์ ผู้นำด้านการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ ทั้งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ 50.1% กระทั่งบริษัทวอลต์ดิสนีย์ซื้อกิจการไป


ปี ค.ศ. 2006 สตีฟ จอบส์ (Steve jobs) เป็นผู้ถือหุ้นมากที่สุดของดิสนีย์ที่ 7% และเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารของดิสนีย์ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2004 สตีฟ จอบส์ (Steve jobs) ได้เข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้องอกมะเร็งออกจากตับอ่อน เขาเป็นโรคมะเร็งในตับอ่อนซึ่งในแบบที่พบได้น้อยมาก ที่เรียกว่า “เนื้องอกในเซลล์ที่ผลิตอินซูลินอันส่งผลต่อระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย” (islet cell neuroendocrine tumor) ซึ่งเป็นเนื้องอกที่ไม่ต้องการเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัดแต่อย่างใด ระหว่างที่เขาป่วย ทิม คุก ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างานขายและปฏิบัติการทั่วโลกของแอปเปิลเป็นผู้บริหารงานแทน

สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับอ่อน ด้วยวัย 56 ปี เขาจากไปอย่างสงบ พร้อมกับขอบคุณผู้ที่ให้กำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้ายตลอดหลายปีที่ผ่านมา“ 
 สตีเฟน พอล จอบส์ (Steven Paul Jobs) ยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปในความทรงจำของคนในครอบครับ ซึ่งได้แก่ พี่สาวแท้ๆของเขา โมนา ซิมสัน ลูกสาว ลิซา เบรนเนน จอบส์ และภรรยาของเขา ลอรีน พาวเวล และลูกๆทั้งสามของพวกเขา






 สตีฟ จอบส์ (Steve jobs) เจ้าพ่อบริษัท แอปเปิล ผู้ล่วงลับเป็นบุคคลผู้คิดค้นนวัตกรรม ซึ่งเปลี่ยนแปลงโลก จ็อบส์ แตกต่างจากคนอื่นตรงที่เขาเลือกมองสิ่งที่คนอื่นมองข้าม และจ็อบส์ยังเชื่อมั่นในพลังแห่งการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ที่จะเนรมิตสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งไม่เพียงช่วยพัฒนาชีวิต แต่ยังเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปจากเดิม



วีดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สตีฟ จ๊อบส์ http://www.youtube.com/watch?v=9Js3iRxgpDk


วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

จงอย่ากลัวที่จะ.....ทำสิ่งใหม่ๆ

 ★สำหรับใครหลายๆคนสาเหตุหนึ่งที่มักเกิดขึ้นกับการเริ่มทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็คงหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ไปไม่ได้นั้นคือ"ความกลัว"
เมื่อพูดถึงความกลัวสิ่งๆหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆคนทุกเพศเเละทุกวัยต่างกันไปตามสถานการณ์นั้นๆเเต่ถ้าเราไม่กล้ามัวเเต่กังวล หรือลังเลใครมันจะไปรู้ว่าสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมันอาจจะมากไปด้วยโอกาส ประสบการณ์ ตลอดจนความสำเร็จดังนั้นจงอย่ากลัวเลยเพราะอนาคตจะเป็นอย่างไรมันก็ถูกกำหนดไว้เเล้วอย่างน้อยเราก็ควรดีใจที่ได้ทำบางทีการเอาชนะความกลัวได้นั้นเเหละคือรางวัลของชีวิตเเล้วล่ะ


เคล็ดลับการเอาชนะความกลัว http://www.oknation.net/blog/print.php?id=844842

วันนี้มีเรื่องๆหนึ่งที่อยากจะให้ผู้อ่านได้ลองอ่านดู.......
ว่าด้วยเรื่องการเดินทางของปลาน้อยตัวหนึ่งในชื่อเรื่องว่า"นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่"จากหนังสือเรื่อง"เจ้าหงิญ"ของบินหลา สันกลาคีรีหนังสือดีๆเล่มหนึ่งที่จะทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ประสบการณ์ทางอารมณ์ การเผชิญกับปัญหาและอุปสรรค การแสวงหาความหมายและความสุขของชีวิต แต่ด้วยความเขลา มนุษย์จึงดิ้นรนและหลงทางอยู่ในมายา ในที่สุด ผู้อ่านจะรับรู้ได้ว่าโลกของความเป็นจริงนั้น โลกมีหลากหลายทางเลือกที่จะไปสู่วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและพอดี






ปลาน้อย นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่


“ตั้งแต่เกิดมาลูกปลาน้อยไม่เคยมีความฝันอื่นใดเลย นอกจาก ฝันที่จะเป็นนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่” 
และเมื่อถึงวัยที่คิดว่าพร้อม ลูกปลาน้อยก็เก็บสัมภาระที่คิดว่าจำเป็นเตรียมออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น
ในคืนนั้น เข้านอนแต่นอนไม่หลับ กลับคิดตั้งคำถามแปลกๆ ให้ตัวเองตอบ
“กลัวไหมว่าอาจจะไม่ได้กลับมา?”
เท่าที่รู้โลกภายนอกมิได้มากมีเฉพาะสิ่งสวยงาม แต่ยังมากมายสิ่งร้ายการ
มีความดี มีความเลว มีผู้ใจดี และมีโจรใจร้าย
คำถามนั้นทำให้เขากังวลเล็กน้อย แต่พอรุ่งเช้า ความกังวลก็ปลาตไป 
กุ้งตัวหนึ่งที่เพิ่งดีดตัวผ่านไปนั่นเอง คือคำตอบ
ลูกปลาน้อยตระเวนหาเสื้อเกราะก็ทำให้ต้องเสียเวลาเล็กน้อย ลูกปลาน้อยจึงเลื่อนกำหนดเดินทางออกไปเป็นวันรุ่งขึ้น แต่ในคืนนั้นเขากลับคิดตั้งคำถามให้ตัวเองตอบ 
“กลัวไหมว่าจะไม่ได้กลับมา?”
คราวนี้เสียเวลาไปราวหนึ่งสัปดาห์กว่าปูตัวหนึ่งจะงุ่มง่ามผ่านมาบอกใบ้คำเฉลย 
ลูกปลาเพียรหาซื้อกระดองปูมาจนได้ แม้จะหนักอึ้งตอนยกขึ้นสวม แต่ไม่เป็นปัญหา 
แต่ก็นั่นเหละ เวลาก็เลยล่วงไปอีกเล็กน้อยและก็พร้อมไปจะไปอยู่แน่ๆแล้วเชียว ถ้าไม่เพราะคืนนั้น… การนอนไม่หลับกับคำถามเดิมๆ

เดือนต่อมา… 
ใครที่เคยรู้จักในนามลูกปลาน้อยเริ่มจำเขาไม่ได้ เพราะเมื่อมองมา อาภรณ์ตัวนอกสุดที่เห็นคือเกราะอันแกร่งประหนึ่งซีเมนต์ของฝาหอย..และกำหนดเดินทางถูกตั้งใหม่ เขาหวังว่าต่อไปนี้จะไม่มีคำถามเดิมๆ มากวนใจอีกแล้ว
ปีต่อมา… 
ลูกปลาน้อยในเกราะอ่อน เกราะอ่อนในเกราะเหล็ก เกราะเหล็กในเกราะปูน เกราะปูนในเกราะหิน อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยล่าสุดของเขาคือกระดองเต่าดึกดำบรรพ์ เขาได้ความคิดอันสุดยอดปลอดภัยนี้ตอนเห็นเต่าตัวหนึ่งซึ่งยืนนิ่งราวอนุสาวรีย์ … พรุ่งนี้ฉันจะออกเดินทาง อย่าลืมว่าฉันคือนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่!! 

หลายปีต่อมา...

ที่มา: คัดลอกย่อจาก หนังสือวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน ประจำปี 2548 เจ้าหงิญ ผู้แต่ง บินหลา สันกาลาคีรี ISBN: 978-974-02-0422-0

.....หากวันนี้คุณกลัวที่จะทำตามความฝัน
จงรับมือกับวันหน้าที่ความฝันนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น.....

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

เพราะชีวิตคือการเดินทาง

★ นิยามคำว่าชีวิตคือการเดินทาง.... 
ชีวิตของคนเรานั้นมักคล้ายกับการเดินทางเพราะสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ปลายทางหากเเต่กลับเป็นเรื่องราวระหว่างเส้นทางกับหลากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา เคยมีคำกล่าวที่ว่า"คนเรามักได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเมื่อได้ออกไปเผชิญกับสถานที่ สถานการณ์ เเละสังคมใหม่ๆ" สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราก็เปรียบได้กับประสบการณ์เเละการเรียนรู้

จะมองให้สุข.....ก็สุข
จะมองให้ทุกข์.....ก็ทุกข์


บางครั้งเเม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องตลก เรื่องร้าย หรือเเม้เเต่เรื่องดีๆสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่อยากจะขอบคุณทุกเรื่องราวเเละผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่สำคัญยังทำให้ชีวิตนั้นไม่เป็นเพียงเเค่บทบันทึกที่ว่างเปล่าอีกต่อไป.....
....ดั่งบทเพลง....
นักเดินทาง ของ August


The best way to get something done is to begin.
หนทางสู่ความสำเร็จที่ดีที่สุดคือการลงมือทำ

Life is never boring,but some people should to be bored,boredom is a choice
ชีวิตคนเราไม่ใช่สิ่งที่น่าเบื่อ เเต่บางคนเลือกทำชีวิตให้น่าเบื่อเอง
ความน่าเบื่อมันเป็นเเค่ทางเลือกเท่านั้นเเหละ

ติดตามคำคมชีวิตคือการเดินทางเพิ่มเติมที่ http://board.postjung.com/613176.html